Page 23 - CAT Magazine
P. 23
VISION / 23
คุณเจษฎาพูดถึงสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้เห็นส�าหรับธุรกิจฟินเทคไทยในอีก ทิศทาง FinTech ไทย
5 ข้างหน้าว่า “ผมอยากเห็นว่ามีไอคอนฟินเทคแอปของคนไทยปรากฏ นอกจากจะเสนอแนะแนวทางการสร้างนวัตกรรมในยุคสังคมและเศรษฐกิจ
บนหน้าจอของมือถือบ้าง 4-5 แอป แทนที่จะกลายเป็นแอปของ Google ดิจิทัลคุณเจษฎาได้คาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจฟินเทคในปี 2560 นี้
หรือ Facebook เต็มไปหมด ไม่อย่างนั้นเราจะสูญเสียเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ไว้ 3 เรื่อง
ในอนาคตอันใกล้นี้แน่ๆ ต้องช่วยกันลุกขึ้นมาท�า แน่นอนว่าถึงเวลานั้นอาจ
จะมีการสูญเสียกันบ้าง ก็ไม่ควรปล่อยให้สูญเสียไปทั้งหมด ประเทศไทย เรื่องแรกโซเชียลแบงก์กิ้งจากเดิมลูกค้าต้องเดินไปหาแบงก์ แต่ทุกวันนี้แบงก์
เราไม่ได้เหมือนจีน ที่สามารถปิดประเทศท�าให้อุตสาหกรรมดิจิทัลของเขา ต้องเดินมาหาลูกค้า แบงก์เดินมาหาประสบการณ์ในการใช้งานของลูกค้า
เติบโตในประเทศซึ่งมีขนาดตลาดใหญ่พอโดยไม่ต้องกลัวคู่แข่งรายใหญ่ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะใช้โซเซียลกัน ไม่ว่าจะเป็นการแชต การเล่น Facebook
จากนอกประเทศ แต่ไทยเป็นประเทศเสรี ท�าแบบนั้นไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ เพราะฉะนั้นบริการทางการเงินจะถูกจับไปผูกติดกับโซเชียลมีเดีย
ผมเชื่อว่า ถ้าเราสามารถปรับตัวได้ดีก็จะอยู่ได้ แม้จะอยู่ทั้งหมดไม่ได้ แต่ก็ “อีกหน่อยเล่น Facebook อยู่ก็สามารถโอนเงินให้กันได้เลย หรือก�าลังเล่น
ขอให้เหลืออยู่ได้เป็นบางส่วนก็ยังดี” ไลน์อยู่ก็สามารถโอนเงินให้กันได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเปิดแอปโอนเงิน”
“หมายความว่าถ้าใครสามารถยึดพื้นที่บนโซเชียลมีเดียได้ก็ชนะ ยกตัวอย่าง
เช่น ถ้ามีสักแบงก์หนึ่งสามารถเข้าไปยึดพื้นที่ในส่วนนี้ไว้ได้ อีกหน่อยเรา
เล่น Facebook อยู่ก็สามารถคลิกเข้าไปในอีกหน้าหนึ่งเป็นหน้าของโซเซียล
แบงก์กิ้งนั้นได้เลย โดยไม่ต้องเข้าไปที่เว็บอื่นอีก เรียกว่าเป็นเพจหนึ่งที่เป็น
ผมอยากเห็นว่ามีไอคอนฟินเทค อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งได้เลย เพราะคนส่วนใหญ่ใช้ Facebook อยู่ ถ้าเป็น
แอปของคนไทยปรากฏบนหน้าจอ ไปได้เขาก็เลือกจะท�าธุรกรรมผ่านหน้า Facebook ดีกว่าที่จะเข้าไปเปิด
แอปอีแบงก์กิ้งขึ้นมาใหม่”
ของมือถือบ้าง 4-5 แอป แทนที่
จะกลายเป็นแอปของ Google เรื่องที่สองคือยุคของธนำคำรที่อิงกับประสบกำรณ์ของผู้ใช้งำน “เพราะชีวิต
หรือ Facebook เต็มไปหมด คนเราก็ไม่ได้อยู่แต่ที่บ้าน ต้องออกไปโน่นไปนี่ ไปท�าธุรกรรมต่างๆ รอบๆ
ไม่อย่างนั้นเราจะสูญเสียเศรษฐกิจ ตัวเรา ซึ่งอาจจะเป็นไปในลักษณะของการท�าธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น
ครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้แน่ๆ การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ใบเดียวจ่ายค่ารถไฟฟ้า ซื้อกาแฟ หรือซื้อของ
ได้ บริการทุกอย่างจะวิ่งไปตามประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ถ้าใครเข้าใจ
ประสบการณ์ของผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม แล้วให้บริการได้อย่างเหมาะสมก็จะ
เป็นผู้ชนะ ภายในอีก 10 ปีข้างหน้าเราจะมีโอกาสเห็นเมืองไทยเป็นสังคม
ไร้เงินสดก็ได้ เพราะเราจะเปลี่ยนไปใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ
อีวอลเล็ตกันหมด เงินก็อยู่ในรูปแบบของเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกเก็บไว้ในบัตร
รักษาการนายกสมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทยได้พูดถึงภารกิจหลักของ หรือโทรศัพท์มือถือแทน”
สมาคมว่าประกอบด้วย 4 ภารกิจหลัก ภารกิจแรกคือการท�าให้ผู้ประกอบการ
ฟินเทคเติบโตได้ และเป็นผู้ชนะในอุตสาหกรรมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เรื่องที่สาม “โลกของกำรลงทุนด้วยกำรใช้อัลกอริธึมเพิ่มมากขึ้น คือการ
ภารกิจที่สองคือท�าให้คนเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น คนไทย ซื้อขายหุ้นด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่ง ณ เวลานี้ก็มีบริษัทหลักทรัพย์ 2-3 แห่ง
หลายคนไม่เข้าแบงก์ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีช่องทางให้คนเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่ เปิดให้บริการดังกล่าวแล้ว และคาดว่าจะมีตามออกมาอีกหลายราย รวมไปถึง
ก็ใช้มือถือกันทุกคนเข้าถึงบริการของแบงก์ได้ง่ายขึ้น ภารกิจที่สามคือ เร็วๆ นี้ เราอาจจะได้เห็นการเปิดให้บริการผู้ให้ค�าปรึกษาด้านการลงทุน
การท�าให้ต้นทุนในการท�าธุรกรรมถูกลง และภารกิจสุดท้ายคือพยายามท�าให้ อัตโนมัติ หรือ Robo Advisor ซึ่งจะมาช่วยนักลงทุนในการจัดพอร์ต
เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจฟินเทค การลงทุนด้านต่างๆ และเข้ามาท�าหน้าที่แทนเจ้าหน้าที่แนะน�าการลงทุน
CAT MAGAZINE