Page 22 - CAT Magazine
P. 22
22 / VISION
สังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลก�ำลังเปิดโอกำสใหม่ให้ธุรกิจไทย เทคโนโลยีหมด ดังนั้น Digital Economy มันคืออนาคตที่ส�าคัญ เพราะมัน
ได้มีโอกำสเติบโต แต่ขณะเดียวกันหำกเรำไม่มีกำรปรับเปลี่ยน เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจ�าวันของเรา ซึ่งสุดท้ายแล้วเศรษฐกิจจะถูกสร้าง
เพื่อสร้ำงนวัตกรรมขึ้นมำ อนำคตประเทศจะอยู่กันล�ำบำก อยู่รอบๆ ตัวเรา มนุษย์จะใช้เวลาอยู่กับระบบดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น
จนอำจถึงขั้นเกิดกำรสูญเสียเศรษฐกิจครั้งใหญ่ให้ต่ำงประเทศ มนุษย์ก็จะกลายเป็นศูนย์กลางของระบบดิจิทัล”
คุณเจษฎำ สุขทิศ รักษาการนายกสมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย ได้ชี้ให้เห็น ในทางกลับกัน คุณเจษฎาตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงเมื่อหันมาดูเมืองไทย
ว่าสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Society และ Digital Economy) ก็คือ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่ยังคงเป็นบริษัท
นั้นมีค่าในเชิงเศรษฐกิจมากขึ้นทุกวัน จะเห็นได้จากบริษัทยักษ์ใหญ่ใน ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดิม ไม่ว่าจะเป็น บมจ. ปตท. หรือ บมจ.ท่าอากาศยานไทย
ล�าดับต้นๆ ของโลกก็ล้วนแต่เป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยีแทบทั้งสิ้นไม่ว่า อันดับถัดๆ ไปก็เป็น ธนาคารพาณิชย์ เซเว่น-อีเลฟเว่น ซึ่งทั้งหมดไม่มีบริษัท
จะเป็น Apple, Google, Amazon หรือ Facebook ทางด้านเทคโนโลยีเลย โดยเฉพาะบริษัทซอฟต์แวร์
“ถ้าจะสังเกตดูให้ดีอย่าง Microsoft สินค้าของเขาก็คือ Windows ที่อยู่ใน “ทั้งโลกตอนนี้ก็ใช้ Chrome, Gmail, Line หรือ Facebook กันหมด นั่นคือ
เครื่องพีซี Google รายได้หลักก็มาจากเว็บ ส่วน Facebook เป็นโซเชียลมีเดีย เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก แต่ลองดูให้ดีจะเห็นว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหมด
และ Apple ถึงแม้จะมีรายได้จากฮาร์ดแวร์ แต่รายได้หลักมาจากบริการ นี้เป็นแค่ไอคอนเล็กๆ บนหน้าจอมือถือของเราเท่านั้น แต่ถ้าดูไปมากกว่านั้น
ต่างๆ ของ Apple ที่อยู่บนเครื่อง อย่างเช่น iTune ที่สร้างรายได้มหาศาล ว่าบนหน้าจอมีไอคอนโปรแกรมหรือบริการของคนไทยอยู่บ้างไหม ไม่มีเลย
เพราะฉะนั้นทุกวันนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกก็ล้วนแต่เป็นบริษัททาง นี่แหละเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะเติบโตขึ้น
ตาม GDP ก็ตาม แต่เป็นเศรษฐกิจดิจิทัลที่ท�าให้ตัวเลข GDP โตขึ้น ในแง่
ของ GNP คือมูลค่ามวลรวมของสินค้าของประเทศเราไม่ได้เติบโตขึ้นเลย
เราก�าลังสูญเสียเศรษฐกิจให้ต่างประเทศ ถ้าเราไม่มีการปรับเปลี่ยนเพื่อ
สร้างนวัตกรรมขึ้นมา อนาคตประเทศเราจะอยู่กันล�าบาก”
เจษฎา สุขทิศ
คนไทยต้องลุกมาสร้างนวัตกรรม
ก่อนสูญเสียเศรษฐกิจไทย
ความเร็วในการพัฒนาคือหัวใจ
ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงท�าให้กระแสของสตาร์ตอัปเกิดขึ้น
เพื่อสนองตอบสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลที่ต้องการความ
รวดเร็ว เพราะเทคสตาร์ตอัปสามารถออกผลิตภัณฑ์
หรือบริการได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องผ่านกระบวนการวิจัย
และพัฒนาที่ใช้เวลานานเหมือนบริษัทในยุคอุตสาหกรรม
แต่ในยุคดิจิทัลเปลี่ยนไปใช้ขั้นตอนของการทดสอบและ
พัฒนาแทน คือสามารถปล่อยคุณสมบัติใหม่ๆ ของ
ผลิตภัณฑ์หรือบริการได้ทุก 2 อาทิตย์ หรือบางทีเร็ว
กว่านั้น เหมือนกับ Google ที่ใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ได้
ก็เพราะมีการปล่อยคุณสมบัติใหม่ๆ ออกมาอยู่ตลอด
เวลา เริ่มจากฟีเจอร์เล็กๆ ให้ทดลองใช้ ถ้าเห็นว่าได้รับ
ความนิยมดี จึงค่อยขยายความสามารถของคุณสมบัตินั้น
แล้วสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ออกมาขาย
CAT MAGAZINE