CAT
            
            
              Magazine
            
            
              61
            
            
              Travel:
            
            
              Charming Thailand
            
            
              Bring out your positive side of life
            
            
              ลั
            
            
              กษณะภู
            
            
              มิ
            
            
              อากาศเมื
            
            
              องระนองที่
            
            
              มี
            
            
              ความชุ
            
            
              ่
            
            
              มชื้
            
            
              น
            
            
              นั้
            
            
              นช่
            
            
              วยเติ
            
            
              มเต็
            
            
              มให้
            
            
              แก่
            
            
              พรรณไม้
            
            
              นานาชนิ
            
            
              ดในบริ
            
            
              เวณ
            
            
              “น�้
            
            
              ำตกหงาว”
            
            
              ให้
            
            
              สวยงามน่
            
            
              ามอง จะพบ
            
            
              “โกมาซุ
            
            
              ม”
            
            
              ดอกกล้
            
            
              วยไม้
            
            
              ประจ�
            
            
              ำจั
            
            
              งหวั
            
            
              ดที่
            
            
              มี
            
            
              อี
            
            
              กชื่
            
            
              อเรี
            
            
              ยกว่
            
            
              า
            
            
              “เอื้
            
            
              องเงิ
            
            
              น
            
            
              หลวง”
            
            
              กลี
            
            
              บดอกมี
            
            
              ขนาดใหญ่
            
            
              สี
            
            
              ขาวนวลและมี
            
            
              สี
            
            
              เหลื
            
            
              อง
            
            
              แซมแต้
            
            
              มอ่
            
            
              อนๆ อยู
            
            
              ่
            
            
              ตรงกลาง ส่
            
            
              งกลิ่
            
            
              นหอมไปทั่
            
            
              วบริ
            
            
              เวณ
            
            
              ถั
            
            
              ดมาตามโขดหิ
            
            
              นที่
            
            
              ปกคลุ
            
            
              มไปด้
            
            
              วยผื
            
            
              นมอสส์
            
            
              เล็
            
            
              กๆ
            
            
              จะพบกั
            
            
              บ
            
            
              “ปู
            
            
              เจ้
            
            
              าฟ้
            
            
              า (ปู
            
            
              สิ
            
            
              ริ
            
            
              นธร)
            
            
              หรื
            
            
              อ
            
            
              ปู
            
            
              น�้
            
            
              ำตก”
            
            
              มี
            
            
              เอกลั
            
            
              กษณ์
            
            
              ที่
            
            
              ต่
            
            
              างจากปู
            
            
              สายพั
            
            
              นธุ
            
            
              ์
            
            
              อื่
            
            
              นๆ คื
            
            
              อ กระดองและ
            
            
              ก้
            
            
              ามเป็
            
            
              นสี
            
            
              ขาวนวล บริ
            
            
              เวณปาก เบ้
            
            
              าตา และขาทั้
            
            
              งสี่
            
            
              คู่
            
            
              เป็
            
            
              นสี
            
            
              ม่
            
            
              วงด�
            
            
              ำ สาเหตุ
            
            
              ที่
            
            
              เรี
            
            
              ยกว่
            
            
              า
            
            
              “ปู
            
            
              เจ้
            
            
              าฟ้
            
            
              า”
            
            
              ก็
            
            
              เนื่
            
            
              อง
            
            
              มาจากได้
            
            
              รั
            
            
              บพระราชทานพระราชานุ
            
            
              ญาตอั
            
            
              ญเชิ
            
            
              ญ
            
            
              พระนามาภิ
            
            
              ไธยของสมเด็
            
            
              จพระเทพรั
            
            
              ตนราชสุ
            
            
              ดาฯ
            
            
              สยามบรมราชกุ
            
            
              มารี
            
            
              ให้
            
            
              เป็
            
            
              นชื่
            
            
              อวิ
            
            
              ทยาศาสตร์
            
            
              ของปู
            
            
              ชนิ
            
            
              ดนี้
            
            
              เพื่
            
            
              อเฉลิ
            
            
              มพระเกี
            
            
              ยรติ
            
            
              ในวโรกาสเสด็
            
            
              จพระราชด�
            
            
              ำเนิ
            
            
              น
            
            
              มาทรงเปิ
            
            
              ดพิ
            
            
              พิ
            
            
              ธภั
            
            
              ณฑสถานธรรมชาติ
            
            
              วิ
            
            
              ทยาแห่
            
            
              ง
            
            
              จุ
            
            
              ฬาลงกรณ์
            
            
              มหาวิ
            
            
              ทยาลั
            
            
              ย เมื่
            
            
              อวั
            
            
              นที่
            
            
              24 กุ
            
            
              มภาพั
            
            
              นธ์
            
            
              พ.ศ.
            
            
              2531 ปั
            
            
              จจุ
            
            
              บั
            
            
              นถื
            
            
              อเป็
            
            
              นสั
            
            
              ตว์
            
            
              คุ้
            
            
              มครองในพระราชบั
            
            
              ญญั
            
            
              ติ
            
            
              สงวนและคุ้
            
            
              มครองสั
            
            
              ตว์
            
            
              ป่
            
            
              า พ.ศ. 2535 หากได้
            
            
              มาเยื
            
            
              อน
            
            
              น�้
            
            
              ำตกหงาว ต้
            
            
              องไม่
            
            
              พลาดสบตาปู
            
            
              เจ้
            
            
              าฟ้
            
            
              าที่
            
            
              น่
            
            
              ารั
            
            
              ก
            
            
              เป็
            
            
              นอั
            
            
              นขาด
            
            
              
                อุ
              
            
            
              
                ทยานแห ่
              
            
            
              
                งชาติ
              
            
            
              
                น�้
              
            
            
              
                ำตกหงาว
              
            
            
              ตั้
            
            
              งอยู
            
            
              ่
            
            
              ในเขต
            
            
              ต�
            
            
              ำบลหงาว อ�
            
            
              ำเภอเมื
            
            
              อง จั
            
            
              งหวั
            
            
              ดระนอง ซึ่
            
            
              งอยู
            
            
              ่
            
            
              ห่
            
            
              าง
            
            
              จากตั
            
            
              วเมื
            
            
              องไปตามทางหลวงแผ่
            
            
              นดิ
            
            
              นหมายเลข 4
            
            
              (ระนอง-ราชกรู
            
            
              ด) ประมาณ 13 กิ
            
            
              โลเมตร พบทางแยก
            
            
              ให้
            
            
              เลี้
            
            
              ยวขวาตรงไปตามทางอี
            
            
              กประมาณ 700 เมตร
            
            
              หรื
            
            
              อติ
            
            
              ดต่
            
            
              อสอบถามได้
            
            
              ที่
            
            
              อุ
            
            
              ทยานแห่
            
            
              งชาติ
            
            
              น�้
            
            
              ำตกหงาว
            
            
              โทร. 0 7784 8181